กินของท้องถิ่น
เที่ยวใต้
วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567
'อุทยาน' สุดบูม แค่ 9 เดือน เก็บเงินนักท่องเที่ยวได้ 1,785 ล้าน
เกาะพีพีแชมป์ รายได้ทะลุ 500 ล้าน
'อุทยาน' สุดบูม แค่ 9 เดือน เก็บเงินนักท่องเที่ยวได้ 1,785 ล้าน
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เร่งเพิ่มศักยภาพและพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยการนำเงินอุทยานแห่งชาติที่จัดเก็บได้ ไปใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว และเน้นย้ำการจัดเก็บเงินอุทยานฯและใช้จ่ายงบอย่างโปร่งใส
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้เปิดเผยข้อมูลยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน (20 มิถุนายน 2567) ปรากฏว่ามียอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,785,493,410 บาท ซึ่งเป็นยอดสถิติการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ที่สามารถจัดเก็บเงินจนแซงหน้ายอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ทั้งปีของปี พ.ศ 2566 ไปแล้ว โดยในปีพ.ศ 2566 จัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติทั้งปีได้จำนวน 1,467,641,971 บาท
จากยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว มีปัจจัยมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม จนทำให้เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งชาติที่สามารถจัดเก็บเงินได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 500,866,577 บาท
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 243,655,470 บาท
3. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 127,820,710 บาท
4. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 114,226,610 บาท
5. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 100,545,505 บาท
โดยการจัดเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สามารถจัดเก็บเงินรายได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน (วันที่ 20 มิถุนายน 2567) 9 เดือน สามารถจัดเก็บเงินได้จำนวนทั้งสิ้น 500,279,247 บาท ซึ่งเป็นสถิติการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ที่สามารถจะเก็บเงินจนแซงหน้ายอดการจัดเก็บเงิน ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท โดยยอดการจัดเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ ระหว่างเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนมิถุนายน 2566 เป็นจำนวนเงิน 208,572,803 บาท โดยสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ระหว่างปีพ.ศ. 2566 จำนวน 2,660,308 คน และปีพ.ศ. 2567 จำนวน 4,548,762 คน เพิ่มขึ้นถึง 1,888,454 คน หรือคิดเป็น 41.5 %
สำหรับเงินอุทยานแห่งชาติซึ่งจัดเก็บได้ จะถูกนำมาใช้จ่ายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในพื้นที่โซนบริการของอุทยานแห่งชาติ ใช้จ่ายเป็นค่าจ้างให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน การพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรในหน่วยงาน ตลอดจนการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติ สำหรับการพิจารณาใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ โดยมีผู้แทนจากองค์กรภายนอกอันเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสถาบันการศึกษา ตลอดจนองค์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่างๆที่อยู่โดยรอบ อีกทั้งที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดำเนินการพัฒนาการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติให้เกิดความโปร่งใส ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนส่งผลให้ยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติเพิ่มขึ้นตามลำดับ ตลอดจนการนำเงินอุทยานฯไปใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
Cr. เพจกรมอุทยานฯ
ที่มา:เพจข่าวสด
วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567
ควายน้ำทะเลน้อยสู่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย
5 ปัจจัยควายน้ำทะเลน้อยสู่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย
ภูมิปัญญาการเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยของจังหวัดพัทลุง ได้รับการยกย่องอย่างสูงเมื่อองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย (Globally Important Agricultural Heritage Systems: GIAHS) การได้รับการยอมรับในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติแก่ชุมชนท้องถิ่น แต่ยังสะท้อนถึงความสำคัญของระบบการเกษตรที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับธรรมชาติ
● ความมั่นคงทางอาหารและชีวิตความเป็นอยู่ดี
การเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยเป็นรูปแบบการเกษตรที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ชาวบ้านในพื้นที่สามารถพึ่งพาแหล่งอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสัตว์ การประมง หรือการเพาะปลูกพืชพื้นบ้าน สิ่งเหล่านี้ทำให้ชุมชนมีอาหารเพียงพอและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
● ความหลากหลายทางชีวภาพเกษตร
พื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ทั้งในด้านพืชและสัตว์ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ชุ่มน้ำช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และทำให้เกิดการหมุนเวียนของสารอาหารในระบบนิเวศอย่างสมดุล
● ระบบความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชุมชนในพื้นที่ทะเลน้อยมีการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติมาแต่ดั้งเดิม การเลี้ยงควายปลักเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ภูมิปัญญานี้ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาระบบนิเวศ แต่ยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีของชุมชนท้องถิ่น
● วัฒนธรรมและระบบคุณค่า
การเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ทะเลน้อยไม่ใช่เพียงแค่การทำเกษตรกรรม แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ ควายปลักไม่เพียงแต่เป็นสัตว์เลี้ยง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ วัฒนธรรมนี้ทำให้ชุมชนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
● ลักษณะภูมิทัศน์และภูมิทัศน์ทางทะเล
ภูมิทัศน์ของพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยมีความงดงามและเต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ การเลี้ยงควายปลักในพื้นที่นี้ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของภูมิทัศน์และระบบนิเวศ ทั้งยังทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
การที่ควายน้ำพื้นที่ทะเลน้อยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่นและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การยกย่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติแก่ชุมชนในพื้นที่ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุมชนอื่น ๆ ในการรักษาและสืบสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ตลอดไป
วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
เปิดสูตรไม่ลับ " ขนมเปียกปูนอัญชัน " ขนมไทยโบราณ
เปิดสูตรไม่ลับ " ขนมเปียกปูนอัญชัน " ขนมไทยโบราณ
ขนมเปียกปูนอัญชัน เป็นขนมไทยโบราณที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ด้วยสีฟ้าสดใสที่ได้จากดอกอัญชันและรสชาติที่หวานหอม นุ่มนวล ทำให้ขนมชนิดนี้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากความอร่อยแล้ว ขนมเปียกปูนอัญชันยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลานาน
สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นขนมเปียกปูนมีประวัติศาสตร์ยาวนานในคนรุ่นเก่าแก่มีความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทยมาช้านาน และมักถูกใช้ในงานเทศกาลต่างๆ และพิธีกรรมทางศาสนา การที่นำดอกอัญชันมาใช้ในการทำขนมเปียกปูนเป็นการปรับเปลี่ยนที่ทำให้ขนมชนิดนี้มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น ดอกอัญชันไม่เพียงแต่ให้สีสันที่สวยงาม แต่ยังมีคุณสมบัติทางยา เช่น ช่วยบำรุงสายตา และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ส่วนผสมและวิธีทำ
ส่วนผสม
1.แป้งข้าวเจ้า 130 กรัม
2.แป้งท้าวยายม่อม 50 กรัม
3.น้ำตาลทรายขาว 140 กรัม
4.น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม
5.น้ำปูนใส 1000 ml
6.น้ำอัญชัน 70 ml
7.มะพร้าวขูดขาว
8.งาขาวคั่ว
วิธีทำ
1.ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม น้ำตาลทราย น้ำตาลมะพร้าว น้ำปูนใส น้ำอัญชัน คนให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายดี
2.นำมากรอง
3.นำไปตั้งเตา กวนจนแป้งสุก ยกลงจากเตา
4.นำมาเทใส่ถาด พักไว้ให้เซ็ตตัว
5.นำมาตัดเป็นชิ้นตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
อ่าวเขาควาย เกาะกำตกสวรรค์ซ่อนเร้นแห่งทะเลไทย
อ่าวเขาควาย เกาะกำตกสวรรค์ซ่อนเร้นแห่งทะเลไทย
อ่าวเขาควาย เกาะกำตก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง จังหวัดระนอง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติแบบสมบูร์ ความงดงามของอ่าวเขาควาย มีลักษณะเด่นคือหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาว น้ำทะเลใสสีเขียวสะอาดจนสามารถมองเห็นปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ อ่าวเขาควายยังมีทิวทัศน์ที่งดงามด้วยภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านล้อมรอบ ทำให้ทัศนียภาพของที่นี่มีความงดงามแบบเฉพาะตัว
หากใครได้มีโอกาสมาสัมผัสสถานที่แห่งนี้ยังมี กิจกรรมที่น่าสนใจ
● การดำน้ำสำรวจปะการังและสัตว์น้ำต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายและสมบูรณ์
● การพายเรือคายัคเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและกิจกรรมอื่นๆ
การเดินทางมายังอ่าวเขาควาย เกาะกำตก สามารถทำได้โดยการนั่งเรือจากท่าเรือแหลมสน ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยเรือจะพานักท่องเที่ยวผ่านทะเลที่งดงามและเกาะน้อยใหญ่ที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วอันดามัน การท่องเที่ยวที่นี่จึงควรเน้นไปที่การรักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้คงความงดงามและสามารถเป็นแหล่งพักผ่อนกับวันพิเศษของคุณ
อ่าวเขาควาย เกาะกำตกสวรรค์ซ่อนเร้นแห่งทะเลไทย รอคุณอยู่..!
วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
James Bond Island หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามว่า "เขาตะปู"
วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
วัดเขารูปช้าง จังหวัดสงขลา
กินของหรอย
กินของท้องถิ่น
-
5 ปัจจัยควายน้ำทะเลน้อยสู่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย ภูมิปัญญาการเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยของจังหวัดพัทลุง ได...
-
วัดเขารูปช้าง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ห่างจากตลาดปาดังเบซาร์ประ...
-
อ่าวเขาควาย เกาะกำตกสวรรค์ซ่อนเร้นแห่งทะเลไทย อ่าวเขาควาย เกาะกำตก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง จังหวัดระนอง เป็นหนึ่งในสถานที่...